บล็อคนี้น่าสนใจอ๊ะป่าว

การสืบพันธ์ของพืช

องค์ประกอบของดอกไม้ ดอกไม้ส่วนใหญ่จะมีสีสวยงามสะดุดตา ถ้าจะเปรียบกับสิ่งสวยงามประดับโลกอื่น ๆ ดอกไม้ก็ เป็นหนึ่ง ที่ธรรมชาติได้ให้มา หากต้นไม้มีแต่สีเขียวทั้งต้น โลกก็น่าเบื่อ ความจริง ดอกไม้ไม่ได้ มีสีสวย เพื่อเอาใจคน แต่เพื่อประโยชน์ของดอกไม้เอง โดยทั่วไปดอกไม้จะประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ เรียงลำดับจากชั้น นอกสุดเข้าไปชั้นในสุดดังนี้ส่วนประกอบทั้งหมดจะติดอยู่บนฐานรองดอกของก้านดอก 1. กลีบเลี้ยง 2. กลับดอก 3. เกสรตัวเมีย 4. เกสรตัวผู้ กลีบเลี้ยง เป็นวงนอกสุดมีสีเขียวคล้ายใบธรรมดา บางที่มีขน งอกอยู่โดยทั่วไป มักมีหลายอันแยกกัน หรือติดกันแล้ว แต่ชนิดของดอก ขณะที่ดอกยังอ่อนอยู่ กลีบเลี้ยงหุ้ม วงในของดอกไม้ไว้ เพื่อป้องกันอันตรายอันจะเกิดจาก การระเหยของน้ำ ความร้อน หนาว แมลง หรือ ศัตรูพืช อื่น ๆ กลีบเลี้ยงของพืชบางชนิดอาจมีสีอื่น ๆ นอกจากสีเขียว เพื่อล่อแมลงให้มาช่วยผสมเกสร เช่น เดียวกับกลีบดอก กลีบดอก เป็นวงที่ถัดเข้าไปมักมีสีต่าง ๆ บางทีมีกลิ่นหอมเพื่อล่อแมลง มีหลายอันแยกกันหรือติดกันเป็นรูปต่าง ๆ ได้ เช่นเดียวกับ กลีบเลี้ยง กลีบดอกบางชนิดเปลี่ยนสีตามเวลาที่ผ่านไป เช่น ดอกพุดตาน ดอกโพธิ์ทะเล ตรงโคนของกลีบดอกมักมีต่อม สร้างน้ำหวาน เพื่อล่อแมลงให้มาดูดน้ำหวาน และช่วย ผสมเกสรด้วย เกสรตัวผู้ เป็นอวัยวะเซลล์สืบพันธุ์ตัวผู้ เป็นวงถัดเข้าไปอีก มักมีหลายอันเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะแยกเป็นอัน ๆ แต่พืชบางชนิดอาจติดกันได้ เกสรตัวผู้นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนอับเรณู เป็นปุ่มอยู่ที่ปลายก้าน ภายในสร้างละอองเรณูเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีเหลือง อีกส่วนเป็นก้านชูอับเรณู ส่วนมากจะเป็นเส้น อาจจะมีมากหรือน้อยเส้นแล้วแต่ชนิดของดอก อย่างเช่น ดอกชมพู่จะมีมากกว่าดอกมะเขือ ส่วนดอกชบาจะติดกันเป็นรูปหลอดแล้วแยกที่ปลาย เมื่อดอกแก่อับเรณูที่ปลายก้านจะแตก เรณูปลิวออกมา เรณูนี้เป็นเซลล์สืบพันธ์ตัวผู้ หรือสเปิร์มนั่นเอง เกสรตัวเมีย เป็นวงในสุดอาจมีอันเดียวหรือหลายอันติดกันหรือแยกกันเป็น อวัยวะ ที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ตัวเมีย แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่พองออกเป็นกระพุ้ง เรียกว่า รังไข่ ถัดจากรังไข่ขึ้น ข้างบน เป็นเส้นเล็ก ๆ เรียกว่าก้านเกสรตัวเมีย ส่วนปลายจะพองออกเป็น ปุ่มมีขนหรือยางเหนียว ๆ สำหรับจับเรณูที่ปลิวมา หรือแมลงพามา เรียกว่า ยอดเกสรตัวเมีย ในยอดเกสรตัวเมียจะมีน้ำตาลชนิด หนึ่งสร้างไว้เพื่อช่วยให้เรณูงอก เรณูเจริญเติบโตงอกยาวเข้าไป ภายในรังไข่ จึงมีโอกาสนำสเปิร์มเข้าไปผสมกับออวุลที่อยู่ในรังไข่ ซึ่งจะเจริญเป็นเมล็ดต่อไปรังไข่ เป็นอวัยวะของดอก ส่วนใหญ่ จะอยู่ตอนกลางดอก เช่น รังไข่ของดอกแค ดอกชมพู่ ซึ่งหลังจาก มีการผสมเกสรแล้ว ก็จะเจริญเป็นผล ต่อไป ฐานรองดอก เป็นส่วนปลายสุดของกิ่งที่เปลี่ยนแปลงมาเพื่อรองรับส่วนต่าง ๆ ของดอก ทั้ง 4 ชั้น ฐานรองดอกมีรูปร่างหลายแบบ ดังนี้ - เป็นแผ่นแบน เช่น ดอกท่านตะวัน - เป็นแอ่งหรือรูปถ้วย เช่น ชมพู่ - นูนสูงขึ้นไป เช่น ดอกบานไม่รู้โรย ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบดังกล่าวครบทั้ง 4 อย่าง จะจัดว่าเป็นดอกครบส่วน แต่สำหรับดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ครบ 4 อย่าง จะจัดว่าเป็นดอกไม่ครบส่วน ดอกไม้ที่มีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน เราเรียกว่า ดอกสมบูรณ์เพศ ส่วนดอกที่มีเฉพาะเกสรตัวผู้ หรือเกสรตัวเมียเพียงอย่างเดียว เรียกว่า ดอกไม่สมบูรณ์เพศ

Code Calendar by zalim-code.com